แอพแชร์โน้ตสรุป Clearnote มีโน้ตสรุปมากกว่า 300, 000 เล่ม ทั้งระดับ ม. ต้น ม. ปลาย และมหาวิทยาลัย
ให้โน้ตสรุปจาก Clearnote เป็นตัวช่วยในการเรียน ไม่ว่าจะเตรียมสอบที่โรงเรียน หรือสอบเข้ามหาลัย
และยังสามารถถามคำถามเกี่ยวกับการเรียนได้ที่ Q&A อีกด้วย
- แผนการจัดการเรียนรู้: แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒
- ชนิดของคำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑: แบบฝึกหัด เรื่อง คำวิเศษณ์
แผนการจัดการเรียนรู้: แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒
คำในภาษาไทย คำในภาษาไทย มี ๗ ชนิด ดังนี้
๑. คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อ บุคคล สัตว์ สิ่งของ สถานที่ คำนาม แบ่งออกเป็น ๕ ชนิด ดังนี้ ๑. ๑ นามทั่วไป หรือสามานยนาม เป็นคำนามที่ไม่ชี้เฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น คน นักเรียน บุรุษไปรษณีย์ กีฬา ๑. ๒ นามชื่อเฉพาะ หรือวิสามานยนาม เป็นชื่อเฉพาะของบุคคล หรือสถานที่ เช่น สมศักดิ์ สุดา มีนบุรี ฉะเชิงเทรา ๑. ๓ นามบอกลักษณะ หรือลักษณนาม เป็นคำนามบอกลักษณะ เช่น ผล ตัว อัน แท่ง ใบ ๑. ๔ นามบอกหมวดหมู่ หรือสมุหนาม เป็นคำนามบอกหมวดหมู่ เช่น โขลง ฝูง หมู่ เหล่า ๑. ๕ นามบอกอาการ หรืออารการนาม เป็นคำที่เกิดจากคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ที่มีคำว่า การ หรือ ความ นำหน้า เช่น การวิ่ง ความดี ความจริง
๒. คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้เเทนคำนาม เพื่อไม่ต้องกล่าวคำนามนั้นซ้ำๆ คำสรรพนาม แบ่งออกเป็น ๗ ชนิด ดังนี้ ๒. ๑ บุรุษสรรพนาม เป็นสรรพนามที่ใช้เเทนนาม มี ๓ ชนิด ดังนี้ สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้เรียก แทนผู้พูด เช่น ข้าพเจ้า ฉัน ดิฉัน ผม สรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้เรียก แทนผู้ฟัง เช่น เธอ ท่าน คุณ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้เรียก เเทนผู้ถูกกล่าวถึง เช่น มัน เขา ท่าน ๒. ๒ สรรพนามชี้ระยะ เป็ฯสรรพนามที่กำหนดให้เรารู้ว่า คน สัตว์ สิ่งของ หรือ สถานที่ที่กล่าวถึงนั้นอยู่ในระยะใกล้ไกลเพียงใด เช่น นี่ ใช้กับ สิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด นั่น ใช้กับ สิ่งที่อยู่ไกลหรือห่าวออกไป ๒.
บอกความหมายเน้นหนัก มักเป็นคำวิเศษณ์ เช่น
พูดดัง ๆ
ฟังดี ๆ
นั่งนิ่ง ๆ
สวย ๆ
4. บอกความไม่เน้นหนัก เช่น
เสื้อสีแดง ๆ
กางเกงสีดำ ๆ
บ้านสีขาว ๆ
3. บอกคำสั่ง มักเป็นคำกริยา เน้นความและบอกคำสั่ง เช่น
อยู่เงียบ ๆ
เดินเบา ๆ
ออกห่าง ๆ
5.
คำชี้แจง: จงเติมคำวิเศษณ์ที่กำหนดให้ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
๑. ดอกมะลิมีกลิ่น...................................................
๒. บ้านหลัง...................................... ที่เพิ่งสร้างใหม่
๓. ขนม.................................................... ขายดีที่สุด
๔. สมุดเล่ม..................................... เป็นของชัยณรงค์
๕. ห้องเรียนของเขาอยู่ชั้น.........................................
๖. บ้าน......................................... ก็ปลูกต้นไม้ทุกหลัง
๗. ศศิวิมลมักมาโรงเรียน...........................................
๘. รถคัน................................... มีสี..........................
๙. คุณครู.................................. ขออนุญาตเข้าห้องน้ำค่ะ
๑๐. ตำรวจตามหาผู้ร้าย.......................................... พบ
ความหมายของคำสรรพนาม
คำ สรรพนาม หมายถึง คำที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวถึงมาแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องกล่าวคำนามนั้นซ้ำอีก เช่นคำว่า ฉัน เรา ดิฉัน กระผม กู คุณ ท่าน ใต้เท้า เขา มัน สิ่งใด ผู้ใด นี่ นั่น อะไร ใคร บ้าง เป็นต้น
ชนิดของคำสรรพนาม
คำสรรพนามแบ่งออกเป็น ๖ ชนิด ดังนี้
๑. บุรษสรรพนาม คือ คำ สรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด แบ่งเป็นชนิดย่อยได้ 3 ชนิด คือ
๑. ๑ สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้แทนตัวผู้พูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน กระผม ข้าพเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจ้า อาตมา หม่อมฉัน เกล้ากระหม่อม
๑. ๒ สรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้แทนผู้ฟัง หรือผู้ที่เราพูดด้วย เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ท่าน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ฝ่าพระบาท พระคุณเจ้า
๑. ๓ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง เขา มัน ท่าน พระองค์
๒. ประพันธสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามและใช้เชื่อมประโยคทำหน้าที่เชื่อมประโยคให้มีความ สัมพันธ์กัน ได้แก่คำว่า ที่ ซึ่ง อัน ผู้
๓. นิยมสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามชี้เฉพาะเจาะจงหรือบอกกำหนดความให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้าใจกัน ได้แก่คำว่า นี่ นั่น โน่น
๔. อนิยมสรรนาม คือ สรรพนามใช้แทนนามบอกความไม่ชี้เฉพาะเจาะจงที่แน่นอนลงไป ได้แก่คำว่า อะไร ใคร ไหน ได บางครั้งก็เป็นคำซ้ำๆ เช่น ใครๆ อะไรๆ ไหนๆ
๕.
'บุ๋ม ปนัดดา' ลั่น อย่าให้ค่าบังแจ็ค รอมา 5 ปี ยังไม่โผล่ ชี้เป็นภัยสังคมอย่าหลงเชื่อคนแบบนี้
'อู่ฮั่น' พบ 'ผู้อยู่อาศัยถาวร' เพิ่ม 1. 2 ล้านคน
'บุรีรัมย์' เอาจริงแล้ว! บุกยำ 'หนองบัว' 3-0 เถลิงแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 7
มิสไซล์รัสเซีย บึ้มสถานีรถไฟยูเครน เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย
ระวังการอ่อนตัวในช่วงเดือน เม. ย. เที่ยวสงกรานต์ต้องรู้ เช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกล มีจุดไหนบ้างที่ต้องระวัง
ของหวาน ผักผลไม้ รอลูกค้าเดินตลาดในจอร์แดน
นกแอร์ จับมือขาใหญ่บริษัททัวร์ ฟื้นเที่ยวบินสู่ "เบตง" 29 เมษายนนี้
คนเกิดวันไหนเฮงที่สุด เช็กดวงงาน เงิน ความรัก สุขภาพ เลขเสริมดวง
"ปณท" แจ้งเปิดให้บริการรับฝากช่วงเทศกาลสงกรานต์
เจาะลึกรถยนต์ไฟฟ้าพี่โต TOYOTA bZ4X เข้าไทยพฤษภาคมนี้ คาด เปิดรับจองปลายปี 2022
บุ๋ม ปนัดดา วิเคราะห์ได้น่าคิด คดีแตงโม ไม่ทำตั้งแต่สองวันแรก
สพท. อุดรธานีปักหมุดมุ่งพัฒนาองค์กรสู่เป้าหมายสมรรถนะผู้เรียน วิลเลียมยิงทีมเก่า! สุพรรณ ไล่เจ๊า เชียงราย 2-2
จีนคาดท่องเที่ยวในประเทศครึ่งปีแรก โกยรายได้ 9 ล้านล้านบาท
ลุ้นเงินกู้ "กองทุนน้ำมันฯ" ก้อนแรก 2 หมื่นล้าน ทัน มิ. ย. จ่อเลิกอุ้มดีเซล
'ธิดาสวนยาง' เปิดใจ มาไกล 1, 300 กม.
ชนิดของคำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑: แบบฝึกหัด เรื่อง คำวิเศษณ์
'ผักเหมียง' พารวย! แนะปลูกแซม 'สวนยาง' สร้างรายได้เหยียบแสนต่อเดือน
จะเรียกชื่อใด ก็เรียกเถิดพ่อ (ภาค 1)
- เซ ก โซ โฟน
- ทบทวนt 10 4014 15 led canbus โคมไฟรถยนต์ | Good price
- รู้จัก "คำสรรพนาม" ใช้เรียกแทนบุคคล ทั้ง 7 ชนิด มีอะไรบ้าง?
- คำสรรพนาม
วิชา ภาษาไทย เรอื ง คาํ สรรพนาม เธอมอี ะไร แสนดี รึเปลา่? ไดส้ ิ!! พรุ่งนีฉนั สอบเรอื ง คําสรรพนาม เธอชว่ ยตวิ ใหฉ้ ันหนอ่ ยได้ไหม? คําสรรพนาม คําสรรพนาม หมายถึง คาํ ทีใชแ้ ทนคํานามทกี ลา่ ว ถึงมาแล้ว เพือจะไดไ้ มต่ ้องกล่าวคาํ นามนันซาํ อกี เชน่ คาํ วา่ ฉนั เรา ดิฉนั กระผม กู คุณ ท่าน ใต้เทา้ เขา มนั สิงใด ผูใ้ ด นี นัน อะไร ใคร บา้ ง เปนต้น คําสรรพนาม แบ่งออกได้ 6 ชนิด ดังนี ๑. บรุ ษสรรพนาม คอื คาํ สรรพนามทใี ช้แทนผู้พูด แบ่งเปนชนิดย่อยได้ 3 ชนดิ คอื ๑. ๑ สรรพนามบุรษุ ที ๑ ใชแ้ ทนตวั ผูพ้ ูด เช่น ผม ฉัน ดฉิ ัน กระผม ขา้ พเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจา้ อาตมา หม่อมฉนั เกลา้ กระหมอ่ ม ๑. ๒ สรรพนามบรุ ษุ ที ๒ ใชแ้ ทนผู้ฟง หรอื ผู้ทเี ราพูดด้วย เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ทา่ น ใตฝ้ าละอองธลุ ีพระบาท ฝาพระบาท พระคณุ เจา้ ๑. ๓ สรรพนามบุรุษที ๓ ใช้แทนผูท้ ีกลา่ วถึง เขา มัน ท่าน พระองค์ ๒. ประพันธสรรพนาม คอื คําสรรพนามทีใช้แทน คาํ นามและใชเ้ ชือมประโยคทําหนา้ ทเี ชือมประโยคใหม้ ี ความสัมพันธก์ ัน ได้แกค่ ําว่า ผู้ ที ซงึ อัน ๓. นิยมสรรพนาม คือ สรรพนามทีใช้แทนนามชเี ฉพาะ เจาะจงหรอื บอกกาํ หนดความใหผ้ ้พู ูดกบั ผ้ฟู งเขา้ ใจกัน ได้แก่คําว่า นี นัน โนน่ ๔.
มีความหมายชัดเจนหนักแน่นขึ้น เช่น
ใหญ่โต หมายถึง ใหญ่มาก
ทรัพย์สิน หมายถึง ของมีค่าทั้งหมด
2. มีความหมายกว้างขึ้น เช่น
พี่น้อง หมายถึง ญาติทั้งหมด
เสื้อผ้า หมายถึง เครื่องนุ่งห่ม
3. มีความหมายแคบลง เช่น
หยิบยืม หมายถึง ยืม
เงียบเชียบ หมายถึง เงียบ
เอร็ดอร่อย หมายถึง อร่อย
4. มีความหมายเชิงอุปมา เช่น
คับแคบ อุ้มชู ถากถาง หนักแน่น ดูดดื่ม
ชนิดของคำซ้อน
1. คำซ้อนเพื่อความหมาย ได้แก่การนำคำมูลที่มีความหมายอย่างเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันมาหรือตรงกันข้ามมารวมกัน
1) ความหมายอย่างเดียวกัน เช่น เติบโต อ้วนพี มากมาย ข้าทาส สูญหาย โง่เขลา ๒) ความหมายตรงกันข้าม เช่น ถูกผิด ยากง่าย หนักเบา สูงต่ำดำขาว ศึกเหนือเสือใต้ ดีร้าย ผิดชอบ
2) ความหมายใกล้เคียงกัน เรือแพ หน้าตา คัดเลือก ข้าวปลา เสื้อผ้า
2. คำซ้อนเพื่อเสียง เกิดจากการนำคำที่มีเสียงคล้ายกันมาซ้อนกันเพื่อให้ออกเสียงง่ายขึ้น มีเสียงคล้องจองกัน เกิดความไพเราะขึ้น เช่น
เกะกะ ขรุขระ เก้งก้าง โผงผาง ท้อแท้ เพลิดเพลิน กินแก็น ยู่ยี่ หลุกหลิก จุ๋มจิ๋ม หยุมหยิม โอนเอน ตุกติก ตูมตาม
สรรพนามชี้เฉพาะ (นิยมสรรพนาม) เป็นสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวถึงที่อยู่ เพื่อระบุให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ได้แก่คำว่า นี่ นั่น โน่น โน้น ตัวอย่างเช่น
นี่เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์ในปีนี้
นั่นรถจักรายานยนต์ของเธอ
๕. สรรพนามบอกความไม่เจาะจง (อนิยมสรรพนาม) คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามที่กล่าวถึงโดยไม่ต้องการคำตอบ
ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง ได้แก่คำว่า ใคร อะไร ที่ไหน ผู้ใด สิ่งใด ใครๆ อะไรๆๆ ใดๆ ตัวอย่างเช่น
ใครๆก็พูดเช่นนั้น
ใครก็ได้ช่วยชงกาแฟให้หน่อย
ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง
ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้
๖. สรรพนามที่เป็นคำถาม (ปฤจฉาสรรพนาม) คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามเป็นการถามที่ต้องการคำตอบ ได้แก่คำว่า ใคร อะไร ไหน ผู้ใด ตัวอย่างเช่น
ใครหยิบหนังสือบนโต๊ะไป
อะไรวางอยู่บนเก้าอี้
ไหนปากกาของฉัน
ผู้ใดเป็นคนรับโทรศัพท์
๗. สรรพนามที่เน้นตามความรู้สึกของผู้พูด สรรพนามชนิดนี้ใช้หลักคำนามเพื่อบอกความรู้สึกของผู้พูดที่มีต่อบุคคล
ที่กล่าวถึง ตัวอย่างเช่น
คุณพ่อท่านเป็นคนอารมณ์ดี (บอกความรู้สึกยกย่อง)
คุณจิตติมาเธอเป็นคนอย่างงี้แหละ (บอกความรู้สึกธรรมดา)