A: ปัจจุบันมีวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่ให้ผลค่อนข้างแม่นยำ ตั้งแต่การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะออกกำลัง, การตรวจหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงหรือ CT Scan การตรวจความผิดปกติของหัวใจด้วย Cardiac MRI และการตรวจสวนหัวใจ (Coronary Artery Angiography) เพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอน
Q: ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเป็นอันตรายถึงชีวิต มีวิธีการรักษาอย่างไร? A: ทำได้โดยการแก้ไขการอุดตันของหลอดเลือด สามารถทำได้ 2 วิธีคือ การให้ยาละลายลิ่มเลือด และการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจทันที ควรรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหรือภายใน 4 ชั่วโมง หลังจากที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงจากโรคหัวใจ
Q: การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสนิท สามารถรักษาได้โดยอาจไม่ต้องผ่าตัด จริงหรือ? A: ในกรณีที่หลอดเลือดอุดตันหรือตีบสนิท ซึ่งจำเป็นต้องใช้แพทย์หัวใจผู้เชี่ยวชาญทำการรักษา ร่วมกับการใช้ "หัวกรอกากเพชร" แพทย์จะประเมินสภาพและความรุนแรงของการอุดตัน เพื่อวางแผนการรักษาอย่างแม่นยำ หัวกรอกากเพชรจะหมุนด้วยความเร็วสูง กรอตะกรันที่อุดตันในหลอดเลือดจนเป็นผงละเอียด จากนั้นจึงใส่โครงค้ำยันหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีดังเดิม
หัวใจ - Body Balance
การป้องกันไม่ให้มีอาการมากขึ้น โดยแนะนำให้ตรวจดูเรื่องปัจจัยเสี่ยงต่างๆและทำการควบคุมปัจจัยเสี่ยงนั้นๆ รวมทั้งการกินยาตามแพทย์สั่ง ซึ่งอาจจะต้องกินไปตลอดชีวิต 2. การป้องกันหลังจากที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว เช่น หลอดเลือดอุดตันแล้ว เป็นต้น จนถึงขั้นนี้แล้วคงต้องรักษาอาจโดยการให้ยา เพื่อช่วยไม่ให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายซ้ำหรือพิจารณาการป้องกันรักษาโดยวิธีผ่าตัด หรือขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (ลูกโป่ง) 3.
หลอดเลือด ทำหน้าที่ลำเลียงเลือดจากหัวใจไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย และเป็นเส้นทางให้เลือดจากอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายกลับเข้าสู่หัวใจ วิดีโอ YouTube ** มาร์เซลโล มัลพิกิ ( Marcello Malpghi) เป็นผู้พบเส้นเลือดฝอยเป็นคนแรก หลอดเลือดในร่างกายมี 3 ชนิด 1. หลอดเลือดแดง (artery) เป็นหลอดเลือดที่นำเลือดดีจากหัวใจไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายหลอดเลือดแดงมี ผนังหนาแข็งแรง และไม่มีลิ้นกั้นภายใน เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดแดงเป็นเลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูง หรือเรียกว่า " เลือดแดง "ยกเว้นหลอดเลือดแดงที่นำเลือดออกจากหัวใจไปยังปอดภายในเป็นเลือดที่มีปริมาณ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มากหรือเรียกว่า " เลือดดำ " 2. หลอดเลือดดำ (vein) เป็นหลอดเลือดที่นำเลือดดำจากส่วนต่างๆ ของร่างกายเข้าสู่หัวใจหลอดเลือดดมีผนังบางกว่า หลอดเลือดแดง มีลิ้นกั้นภายในเพื่อป้องกันเลือดไหลย้อนกลับ เลือดที่ไหลอยู่ภายในหลอดเลือดจะเป็นเลือดที่มีปริมาณ แก๊สออกซิเจนต่ำ ยกเว้นหลอดเลือดดำที่นำเลือดจากปอดเข้าสู่หัวใจ จะเป็นเลือดแดง 3.
โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease: CAD or Coronary Heart Disease) เป็นกลุ่มอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ครอบคลุมโรค 3 กลุ่ม ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดส่วนปลาย ซึ่งเป็นสาเหตุการตายของคนไทยเป็นอันดับ 3 รองจาก โรคมะเร็ง และอุบัติเหตุ จากสถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจในประเทศไทยพบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น 21, 700 รายต่อปี และในทุกชั่วโมงคนไทยจะเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเฉลี่ย 2.
หลอดเลือดและความดันเลือด - ระบบไหลเวียนโลหิต
หลอดเลือดหัวใจจะโอบรอบหัวใจ และส่งแขนงหลอดเลือดแทงลงไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่อยู่ข้างใต้ การตีบตัน ทำให้ เลือดไม่สามารถ ผ่าน จุดที่ตีบตัน ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ กล้ามเนื้อหัวใจบริเวณที่ถูกเลี้ยงด้วยหลอดเลือดเส้นนั้น ก็จะ ค่อยๆขาดเลือด และตายลง
นพ. วิโรจน์ ตันติโกสุม
อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด
ศูนย์ดูแล และฟื้นฟู ชีวา คลิกดูข้อมูล
บางใหญ่ นนทบุรี
การเดินทางมา ศูนย์ดูแล และฟื้นฟู ชีวา คลิก
7 เท่า ยิ่งกว่านั้นผู้ป่วยที่เป็น เบาหวาน จะเพิ่มโอกาสในการเป็นมากกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นถึง 3. 5 เท่า ในส่วนของผู้ป่วยที่เป็นทั้งเบาหวานและกลุ่มอาการเมตาบอลิกจะมีโอกาสในการเป็นมากกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นถึง 4.
Q & A ข้อสงสัยเรื่อง (โรค) หัวใจ... โรคหัวใจให้เราดูแล | RYT9
เอเตรียมขวา เป็นหัวใจห้องบนขวา รับเลือดที่ใช้แล้วจากร่างกายเข้าสู่หัวใจ
โดยรับเลือดจากซูพีเรีย เวนาคาวา
ซึ่งรับเลือดมาจากส่วนหัวและแขนและอีกเส้นหนึ่งคือ อินฟิเรีย เวนาคาวา
ซึ่งรับเลือดจากลำตัวและขา
2. เอเตรียมซ้าย
เป็นหัวใจห้องบนซ้าย รับเลือดดีที่มีออกซิเจนสูงจากปอด กลับเข้าหัวใจทางหลอดเลือดพัลโมนารีเวน
3. เวนตริเคิลขวา หรือหัวใจห้องล่างขวา รับเลือดจากเอเตรียมขวาส่งไปฟอกที่ปอด
โดยหลอดเลือดพัลโมนารีเวน
4. เวนตริเคิลซ้าย หรือหัวใจห้องล่างซ้าย รับเลือดจากเอเตรียมซ้ายซึ่งเป็นเลือดดี
ส่งไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยอาศัยหลอดเลือดเอออร์ตา
เวนติเคิลซ้ายมีผนังกล้ามเนื้อหนาที่สุด
ลิ้นหัวใจ
ลิ้นหัวใจกั้นระหว่างห้องต่าง
ๆ เพื่อไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ ได้แก่
ลิ้นไตรคัสปิด ( Tricuspid
valve)
กั้นระหว่างหัวใจห้องเอเตรียมขวาและเวนตริเคิลขวา มีลักษณะเป็นเยื่อ 3 ชิ้น
โดยเปิดให้เลือดไหลจากห้องเอเตรียมลงสู่เวนตริเคิล
และเมื่อเวนตริเคิลบีบตัวมีความดันสูงขึ้นจะดันให้ลิ้นนี้ปิด
ป้องกันเลือดไหลย้อนกลับสู่เอเตรียมขวา
2. ลิ้นไบคัสปิด ( Bicuspid vale) หรือ ลิ้นไมตรัล ( Mitral
กั้นระหว่างหัวใจห้องเอเตรียมซ้ายกับเวนตริเคิลซ้าย เป็นเยื่อ 2 ชิ้น
ที่ยอมให้เลือดไหลจากห้องบนลงสู่ห้องล่าง
แต่จะปิดกั้นไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับห้องเอเตรียมซ้าย
3.
- ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจหวยงวดนี้ ตรวจหวยวันนี้ งวด 1 สิงหาคม 2562: พฤษภาคม 2018
- Samsung ศูนย์ ซ่อม
- มารู้จักหลอดเลือดหัวใจ – Chewa Senior Care
- Legend 150s ราคา plus
- หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ
- Suzuki rmx450z ราคา ตารางผ่อน
- ไอคอน ดอกไม้ png capture
- หลอดเลือดหัวใจ - วิกิพีเดีย
1016/0002-8703(49)90884-4. PMID 15395916. ↑ "Coronary Artery Disease: Causes, Diagonosis & Prevention| ". 2018-10-09. สืบค้นเมื่อ 2019-09-01. ↑ "Coronary Artery Disease". Cleveland Clinic (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-09-01. ↑ "Coronary Artery Dissection: Not Just a Heart Attack". สืบค้นเมื่อ 2019-09-02.
โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน - บทความสุขภาพ โดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน
โดยเฉพาะผู้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 90 ซม. หรือผู้หญิงที่มีรอบเอวมากกว่า 80 ซม. เพื่อตรวจหาระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ เอชดีแอล (HDL) และน้ำตาลในเลือด
โรคหลอดเลือดหัวใจ ภัยร้ายใกล้ตัวอีกโรคหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม จากรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในสังคมเมือง อาจทำให้เราละเลยต่อการดูแลสุขภาพของตัวเอง หากรู้จักสังเกตความผิดปกติของร่างการก็จะสามารถช่วยให้การรักษาเป็นไปได้อย่างทันท่วงที
ข้อมูลอ้างอิงจาก คณะแพทยศาตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หัวใจ ชั้น 4 โซน C
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หัวใจ ชั้น 4 โซน C